ลำดับที่ 2. สถานที่ตั้งมโนปณิธานบวชตลอดชีวิต
ตั้งอยู่ที่ริมคลองบางนางแท่น อ.สามพราน จ.นครปฐม
• อนุสรณ์สถานคลองบางนางแท่น
สถานที่ตั้งมโนปณิธานบวชตลอดชีวิต
พ.ศ. 2446 อายุได้ 19 ปี
ได้ปฏิญาณบวชตลอดชีวิต
ณ คลองลัดบางนางแท่น อยู่เหนือตลาดใหม่
แม่น้ำนครไชยศรี
อ.สามพราน จ.นครปฐม
กล่าวได้ว่าน้อยคนนักที่ใครสักคนหนึ่งจะตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อออกบวชตลอดชีวิตมิใช่เรื่องง่าย เพราะโดยปกติใจของสรรพสัตว์ทั้งหลายจะถูกห่อหุ้มด้วยกิเลส โดยเฉพาะกามคุณซึ่งเป็นเหยื่อล่อสำคัญที่ทำให้สรรพสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอยู่ร่ำไป ผู้ที่มีบุญเก่ามาดีจึงจะสามารถเห็นโทษภัยของการอยู่ครองเรือน เห็นความสำคัญของการบำเพ็ญเนกขัมมบารมีและมีแรงบันดาลใจ มากพอที่จะใช้ชีวิตของตนให้หลุดพ้นจากกิเลสกามด้วยการออกบวช เพราะเหตุดังกล่าวนี้ ลูกศิษย์หลานศิษย์ทั่วโลก จึงปรารภที่จะหล่อรูปเหมือนทองคำพระมงคลเทพมุนีประดิษฐานไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ สถานที่ ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานไว้ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญแห่งจุดเริ่มต้นในปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นมหาปูชนียาจารย์ผู้มีคุณูปการแก่มวลมนุษยชาติ อันเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา และเชื่อมสายบุญกับท่านไปทุกภพทุกชาติ อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นการสร้างมงคลให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ตามภาษิตที่ว่า “ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ การบูชา บุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลอันสูงสุด”
• ความสำคัญของอนุสรณ์สถานคลองบางนางแท่น
อนุสรณ์สถานคลองบางนางแท่น จังหวัดนครปฐมแห่งนี้ เป็นสถานที่เราได้ร่วมกันสถาปนาเพื่อน้อมบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร เป็นการประกาศพระคุณผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ในเส้นทางพระผู้ปราบมาร ซึ่งคลองบางนางแท่นแห่งนี้ ท่านได้ตั้งมโนปณิธานอธิษฐานจิตบวชตลอดชีวิตตอนอายุได้ ๑๙ ปี ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตครั้งสำคัญ
พระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร สมัยท่านยังเป็นฆราวาสอยู่ ท่านมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายข้าว ได้ล่องเรือไปทำมาค้าขาย จนกระทั่งอายุได้ ๑๙ ปี ขากลับที่จะไปจังหวัดสุพรรณบุรี ล่องเรือมาผ่านคลองลัดบางนางแท่น ซึ่งจะลัดระยะทางให้สั้นลง คลองลัดแห่งนี้ในสมัยก่อนนั้นเป็นคลองที่ชุกชุมด้วยชุมนุมโจรทั้งหลาย ที่จะปล้นสะดมทรัพย์สำหรับผู้ที่ล่องเรือผ่านมาในเส้นทางนี้
ดังนั้น…คลองลัดบางนางแท่นแห่งนี้ ทำให้ท่านได้ข้อคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า…คนเราทุกคนต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดเรา บรรพบุรุษของเรา ปู่ย่าตายายของเรา ท่านก็ทำมาค้าขายอย่างนี้ ได้ทรัพย์สินเงินทองมามากมาย แต่ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้เลยแม้สักอย่างหนึ่ง เอาไปได้แค่บุญกับบาปเท่านั้น
ถ้าเราทำตามอย่างบรรพบุรุษ เราก็ต้องหาเงินทองทั้งชีวิต เราอย่าทำอย่างนั้นเลย ตอนนี้เรายังอยู่ในช่วงที่แข็งแรง ได้เกิดมาเป็นมนุษย์มาพบพระพุทธศาสนาแล้ว เราควรใช้วันเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต ซึ่งไม่ทราบว่าจะยาวนานเพียงใด เพราะความตายไม่มีนิมิตหมาย ทำประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตดีกว่า คือการออกบวชในเพศสมณะ ชีวิตนี้เป็นชีวิตที่ประเสริฐที่สุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะในยุคที่มีการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เราจะต้องออกบวช
ในระหว่างล่องเรือผ่านคลองลัดบางนางแท่น ท่านได้อยู่หัวเรือ แล้วให้ลูกน้องอยู่ท้ายเรือ โจรมักจะทำร้ายผู้ที่อยู่ท้ายเรือ ซึ่งท่านก็ได้ข้อคิดว่า “ทรัพย์นี้ก็ของเรา เราจะให้ผู้อื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ มาเป็นอันตรายแทนตัวเราหาควรไม่ เวลาโจรร้ายมาก็จะต้องทำร้ายผู้ที่อยู่ท้ายเรือก่อน” ท่านจึงเปลี่ยนจากการนั่งหัวเรือมาอยู่ท้ายเรือ แล้วก็ตั้งมโนปณิธานว่า “ถ้าเรารอดชีวิตไปได้ก็จะออกบวช บวชแล้วจะไม่สึกเลย จะอยู่ในเพศสมณะนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
เป็นมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครง่าย ๆ จะเกิดขึ้นกับพระบรมโพธิสัตว์เท่านั้น เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ ตอนที่ท่านเป็นเจ้าชายสิทธัตถะที่กำลังประพาสในพระราชอุทยาน แล้วเห็นเทวทูตทั้ง ๔ แบบเดียวกัน
ดังนั้น…ณ จุดที่ท่านได้ตั้งมโนปณิธานตอนอายุ ๑๙ นี้ ทำให้ภาวะต่อมาก็เกิดขึ้น ตั้งแต่เกิดใหม่ในเพศสมณะ เกิดใหม่ด้วยธรรมกาย กระทั่งเผยแผ่วิชชาธรรมกายและค้นคว้าไปสู่การปราบมาร จนกระทั่งนำมาถึงจุดที่ขยายวิชชาธรรมกายไปทั่วโลกที่วัดพระธรรมกายของเรา เราทำเพื่อประกาศคุณบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่ด้วยความเคารพเลื่อมใสเทิดทูน เพราะการบูชาบุคคลที่ควรบูชาอย่างท่าน เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง และเป็นมงคลอันสูงสุดของชีวิต
สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่าย ๆ การบังเกิดขึ้นของพระเดชพระคุณหลวงปู่ไม่ใช่เรื่องง่าย พญามารกันนักกันหนาไม่อยากให้ท่านเกิด เพราะกลัว “พระผู้ปราบมาร” คำว่า “พระผู้ปราบมาร” จึงมีความสำคัญมาก ๆ และไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ด้วยเหตุนี้จึงสมควรที่เราจะต้องบูชาธรรมท่าน ด้วยการมาประกาศคุณบูชาธรรมสถาปนาเส้นทางพระผู้ปราบมารให้บังเกิดขึ้น และก็หวังว่า “คลองบางนางแท่นแห่งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้พระพุทธบุตรกองพันธรรมยาตราทุก ๆ รูป จะบวชให้ได้ ๒ ชั้น และบวชสร้างบารมีต่อไปอีกนาน ๆ”
โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย