ธรรมยาตรา
สารบัญ
ธรรมยาตราคืออะไร ?
โครงการธรรมยาตรา
“รักษ์บ้าน วัด โรงเรียน (บวร) และรักษาศีล 5”
การเดินธรรมยาตราของพุทธบุตรธรรมทายาท เพื่อย้อนรอยระลึกถึงเส้นทางการสร้างบุญบารมีตลอดชีวิตของมหาปูชนียาจารย์ พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
ตลอดชีวิตของพระภิกษุเป็นชีวิตของผู้ทรงภูมิธรรมอันสูงส่ง ในห้วงแห่งสังสารวัฏอันยาวไกลที่อันตรายมากมายนี้ชีวิตนักบวช เตือนให้เข้าใจว่าชีวิตเป็นทุกข์ ด้วยว่าชีวิตของผู้ครองเรือนทั่วไปนั้น การดำเนินชีวิตของคนทั้งหลายล้วนต้องวนเวียนอยู่ในเรื่องความรับผิดชอบต่างๆ รอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว จึงควรที่จะหาหนทางให้โอกาสแก่ตัวเอง อุทิศเวลาให้กับการสั่งสมบุญคุณความดีเพื่อจะได้เข้าถึงเป้าหมายแห่งความสุขอย่างยิ่ง คือ พระนิพพาน
ชีวิตสมณะเป็นชีวิตที่ทวนกระแสกิเลสอย่างโลกๆ มีอิสรภาพปลอดโปร่งจากความวิตกกังวลและความผูกพันทั้งหลาย มีความสำรวมสงบอย่างสง่างามน่าเลื่อมใสทั้งในความคิด คำพูดและการกระทำ พระภิกษุจะให้ความจดจ่อสนใจระมัดระวังในศีลของท่านอันเป็นพุทธวินัย การปฏิบัติสมาธิภาวนาและการพัฒนาจิตใจให้มีดวงปัญญาบริสุทธิ์
เมื่อได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว จะต้องผ่านพ้นการฝึกฝนอบรมตนเองในเรื่องวินัย ความเคารพ และความอดทน การเดินธรรมยาตราเป็นบทฝึกอย่างหนึ่งสำหรับพระภิกษุผู้บวชใหม่ คำว่า ธรรมยาตรา มีรากศัพท์มาจากคำว่า “ธรรมะ” กับคำว่า “ยาตรา”
คำว่า“ธรรมะ” หมายถึง สภาวธรรมความดี ส่วนคำว่า “ยาตรา” หมายถึง ความเป็นไปแห่งชีวิต หรือความออกไปจากทุกข์ ดังนั้นคำว่า ธรรมยาตรา หมายถึง การดำเนินไปด้วยธรรม ซึ่งมีความหมายว่า การดำเนินออกไปจากทุกข์ทางกายและทุกข์ทางใจด้วยธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือมีอีกความหมายหนึ่งว่าเป็นธรรมจาริก หมายถึง การเดินทางเพื่อประกาศธรรม นัยสำคัญอยู่ที่การเดินทางเพื่อประกาศธรรมด้วยทางเท้าของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเป็นหมู่ใหญ่ไปยังทุกทิศทุกทางในหลายๆ แห่ง เพื่อเผยแผ่คุณธรรมความดีและยังเป็นกุศโลบายวิธีการฝึกฝนอบรมตนเองของพระภิกษุเพื่อเอาชนะแก้ไขนิสัยความไม่ดีต่างๆ ด้วยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โครงการธรรมยาตราครั้งที่ 11 ซึ่งมีพระภิกษุในพระพุทธศาสนาร่วมเดินธรรมยาตรา โดยเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 2-31 มกราคม พุทธศักราช 2566 ตลอดเส้นทางธรรมยาตรานั้นประชาชนทั่วไปจะได้มีโอกาสอนุโมทนาสาธุการตามเส้นทางที่โปรยด้วยกลีบดอกไม้เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ภาพอันเป็นมงคลยิ่งที่ได้เห็นพระสงฆ์หมู่ใหญ่พร้อมเพียงกันเดินทางด้วยความสงบสง่างามน่าเลื่อมใส เป็นแรงบันดาลใจสร้างศรัทธาให้แก่ผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส และตอกย้ำความประทับใจให้แก่ผู้เลื่อมใสอยู่แล้วย่อมเลื่อมใสหนักแน่นยิ่งขึ้น
การโปรยดอกไม้บนทางเท้าเพื่อต้อนรับพระภิกษุสงฆ์ได้เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ในครั้งพุทธกาล ดังจะเห็นปรากฏจารึกในพระไตรปิฎกเกี่ยวกับการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำพระสงฆ์สาวก เดินธุดงค์ธรรมยาตรา ด้วยว่าครั้งหนึ่งมีเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่มากเกิดขึ้นที่เมืองไวสาลี ประชาชนเมืองนั้นได้รับทุกขเวทนาจากโรคระบาดร้ายแรงอย่างมากมายจนมีผู้คนล้มตายศพทับถมกองราวกับเป็นภูเขาสูง
ในเวลาเช่นนั้นทางการเมืองไวสาลีได้กราบอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เสด็จไปโปรด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับอาราธนาแล้วทรงเสด็จธรรมยาตราพร้อมด้วยพระสงฆ์หมู่ใหญ่ 500 รูป ออกจากเมืองราชคฤห์โดยพระเจ้าพิมพิสารได้ทรงตระเตรียมเส้นทางการเดินทางตลอดระยะ 80 กิโลเมตรด้วยการประดับธงทิวและตราสัญลักษณ์ มีฉัตรมีร่มกางกั้นและโปรยกลีบดอกไม้นานาชนิด 5 สีบนทางเท้าชาวเมืองที่พักอาศัยตามรายทางต่างออกมาช่วยกันทำความสะอาดถนนหนทาง ต่างก็ช่วยกันประดับตกแต่งพวงดอกไม้อันวิจิตรประณีต พร้อมกับโปรยกลีบดอกไม้นานาชนิด 10 สีเพื่อเป็นการแสดงความเคารพบูชาและต้อนรับการเดินธรรมยาตราของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและหมู่สงฆ์
ชีวิตการสร้างบารมีของพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ มหาปูชนียาจารย์ท่านนี้มีความสำคัญต่อเส้นทางการเดินธรรมยาตราอย่างไร?
ตลอดเส้นทางธรรมยาตราของพระธรรมทายาทในโครงการครั้งนี้ นอกจากเป็นโอกาสของท่านทั้งหลายในการฝึกฝนอบรมตนเองแล้ว ยังเป็นการน้อมตรึกระลึกถึงมหากรุณาอันยิ่งใหญ่สุดประมาณของมหาปูชนียาจารย์พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ท่านเป็นผู้ทรงคุณธรรมอันเปี่ยมล้น ทรงอานุภาพอย่างจะประมาณมิได้ ท่านได้สละชีวิตเป็นเดิมพันในการสั่งสมบุญบารมีตามรอยบาทพระบรมศาสดา อุทิศชีวิตตลอดเวลาเพื่อฝึกฝนตนเองและแนะนำสั่งสอนสาธุชนในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงพระธรรมกาย ทำให้มีผู้บรรลุธรรมตามท่านทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นการบรรลุถึงเป้าหมายได้ที่พึ่งแท้จริงอันสูงสุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ได้พบพระพุทธศาสนา
สถานที่เกิดด้วยรูปกายเนื้อ
ตั้งอยู่บนแผ่นดินรูปดอกบัว มีน้ำล้อมรอบ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
สถานที่ตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต
ตั้งอยู่ริมคลองบางนางแท่น อ.สามพราน จ.นครปฐม
สถานที่เกิดใหม่ในเพศสมณะ
ตั้งอยู่วัดสองพี่น้อง (พระอารามหลวง) อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
สถานที่เกิดใหม่ด้วยกายธรรม
ตั้งอยู่วัดโบสถ์บน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
สถานที่เผยแผ่วิชชาธรรมกายครั้งแรก
ตั้งอยู่บนแผ่นดินตรงข้ามวัดบางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม
สถานที่ค้นคว้าและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย
ตั้งอยู่วัดปากน้ำ (พระอารามหลวง) เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
สถานที่ขยายวิชชาธรรมกาย
ตั้งอยู่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เส้นทางมหาปูชนียาจารย์นี้ เกี่ยวเนื่องถึงพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นพระภิกษุผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมและคุณวิเศษที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหมั่นฝึกฝนตนเองจนกระทั่งสามารถพิสูจน์ให้ชาวโลกได้รู้เห็นว่าพระพุทธศาสนา คือที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดจริงๆ เส้นทางมหาปูชนียาจารย์นี้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ 7 แห่ง ในประวัติศาสตร์ ชีวิตของหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
วัตถุประสงค์ของธรรมยาตรา หรือจาริกไปโดยธรรมมี 3 ประการ
- เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชน อนุเคราะห์ชาวโลก และเพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ คือ การจาริกแต่ละครั้งทุกคนได้ประโยชน์แม้กระทั้งเทพเทวาด้วย
- ต้องแสดงธรรมหรือประกาศธรรมจะมากน้อยก็ได้ แต่ต้องงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะครบบริบูรณ์บริสุทธิ์
- สัตว์ทั้งหลายจำพวกที่มีธุลีคือกิเลสในจักษุน้อย มีอยู่ เพราะไม่ได้ฟังธรรมย่อมเสื่อม ผู้รู้ทั่วถึงธรรมจักมี หมายถึงคนที่มีศรัทธาและปัญญามีบุญบารมีพอ ดีจะบรรลุธรรมนั้นมีอยู่ ถ้าไม่มีการจาริกไม่มีการแสดงธรรมก็จะเสื่อมเสียจากประโยชน์สุข สำหรับคนที่ยังไม่เลื่อมใสและมีปัญญาน้อยไม่ได้ถือเป็นประมาณ แต่ก็จะได้เป็นอุปนิสัยติดตัวต่อไปในภายภาคเบื้องหน้า
ธรรมยาตราในสมัยพุทธกาลมีอย่างไรบ้าง
ในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงนำพระสงฆ์สาวกจำนวนมาก เดินธุดงค์ธรรมยาตรา จากเมืองสู่เมืองเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา อาทิ
ในสมัยพุทธกาล เมืองไพศาลี หรือเวสาลี นครหลวงแห่งอาณาจักรวัชชี มีการปกครองระบอบสามัคคีธรรม (คล้ายกับลักษณะสาธารณรัฐในปัจจุบัน) เป็นเมืองที่มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ มีประชาชนอยู่หนาแน่น ต่อมาเมืองไพศาลีเกิดภัย๓ประการคือ
๑.ข้าวยากหมากแพง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าแห่งเหี่ยวตาย เกิดทุพภิกขภัยใหญ่
๒.มีโรคระบาดพวกคนยากคนจนอดอยากล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ซากศพถูกนำไปทิ้งไว้นอกเมืองก็ส่งกลิ่นเหม็นตลบไป
๓.พวกอมนุษย์ก็พากันเข้าเมืองคนยิ่งล้มตายกันมากขึ้น เกิดอหิวาตกโรคตามมา เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
กษัตริย์ลิจฉวีซึ่งมีจำนวนถึง ๗,๗๐๗ องค์ จึงให้ประชาชนประชุมพร้อมกันในสัณฐาคาร (ห้องประชุมใหญ่) เพื่อร่วมกันพิจารณาสอดส่องความประพฤติของบรรดากษัตริย์ทั้งหลายว่า ได้ทำผิดศีล หรือมีพฤติกรรมอันใดที่ไม่ดี จึงทำให้เกิดภัยต่าง ๆ ดังกล่าว
เมื่อไม่เห็นว่ากษัตริย์ทั้งหลายทำความผิดมีโทษอันใด จึงหาทางระงับภัย ๓ ประการนั้น โดยเห็นร่วมกันว่าควรกราบทูลนิมนต์พระพุทธเจ้า ซึ่งขณะนั้นประทับอยู่ที่พระนครราชคฤห์ จึงได้ส่งเจ้าลิจฉวี ๒ องค์ เป็นฑูตนำเครื่องราชบรรณาการไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร ณ พระนครราชคฤห์
เจ้าลิจฉวีทั้งสองจึงได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทรงรับนิมนต์แล้ว จึงทูลขอเวลาตกแต่งหนทางตั้งแต่เมื่องราชคฤห์ ไปจนถึงฝั่งแม่น้ำคงคาเป็นระยะทางประมาณ ๘๐ กิโลเมตร และโปรดให้สร้างวิหารไว้สำหรับพักตามระยะทางอีก ๕ หลัง
พระเจ้าพิมพิสารโปรดให้กั้นเศวตฉัตร (ร่มขาว) ถวายพระพุทธเจ้า ๒ คันและกั้นถวายภิกษุสงฆ์ที่ติดตามอีก ๕๐๐ รูป รูปละ ๑ คัน พระองค์ได้ตามเสด็จไปพร้อมด้วยข้าราชบริพาร ทรงถวายเครื่องสักการบูชา ของหอมและทรงบำเพ็ญกุศลถวายทานตลอดทางไปจนถึงฝั่งขวาของแม่น้ำคงคา และทรงส่งข่าวสารไปยังเมืองไพศาลีให้ทราบว่า บัดนี้พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาถึงฝั่งแม่น้ำคงคาแล้ว พระเจ้าพิมพิสารทรงพระดำเนินลงไปในน้ำลึกจนถึงพระศอ (คอ) เพื่อส่งพระบรมศาสดาข้ามฝั่งแม่น้ำคงคา
ทางเมืองไพศาลี ซึ่งตั้งอยู่ห่างฝั่งซ้ายของแม่น้ำคงคาขึ้นไปทางเหนือประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เมื่อทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าทรงรับนิมนต์แล้ว ก็เตรียมปราบทางให้ราบเรียบตั้งแต่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำคงคาไปจนถึงเมืองไพศาลี และสร้างวิหารประจำไว้จำนวน ๓ หลัง เตรียมทำการบูชาเป็น ๒ เท่า ของพระเจ้าพิมพิสารที่ทรงทำมาแล้ว เรือขนานนำพระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูป มาในแม่น้ำคงคาเป็นระยะทาง ๑๖ กิโลเมตร ก็ถึงเขตเมืองไพศาลี บรรดากษัตริย์ลิจฉวีก็พากันลุยนำลงรับเสด็จพระพุทธเจ้าในแม่น้ำคงคาถึกถึงพระศอเช่นกัน
ครั้นเรือขนาบเทียบถึงฝั่ง พอพระพุทธเจ้าทรงยกพระบาทแรกย่างเหยียบฝั่งแม่น้ำคงคา กลุ่มเมฆมหึมาซึ่งแผ่กระจายตั้งเค้ามืดมิดก็บันดาลให้ฝนตกลงมาห่าใหญ่ น้ำฝนไหลนองท่วมพื้นดินระดับน้ำสูงถึงเข่าบ้างถึงสะเอวบ้าง ถึงคอบ้าง พัดพาเอาซากศพลอยลงแม่น้ำคงคาไปหมด ทำให้ภาคพื้นดินบริสุทธิ์สะอาดโดยทั่วไป
พระพุทธเจ้าเสด็จถึงประตูเมืองไพศาลีในเวลาเย็น ได้ตรัสให้พระอานนท์เรียน “รัตนสูตร” เพื่อเดินจาริกทำพระปริตไปในระหว่างกำแพง ๓ ชั้น ในเมืองไพศาลีกับบรรดากุมารลิจฉวีแล้วตรัส “รัตนสูตร” ขึ้นในกาลครั้งนั้น ที่เรียกพระสูตรนี่ว่า “รัตนะ” เพราะหมายถึง พระรัตนตรัย คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ
เมื่อพระอานนท์เรียนรัตนสูตรจากพระพุทธเจ้าแล้ว ก็เอาบาตรของพระพุทธเจ้าใส่น้ำถือไปยืนที่ประตูเมือง พลางรำลึกถึงพระพุทธคุณตั่งแต่ทรงตั้งความปราถนาที่จะได้บรรลุพระโพธิญาณ จนถึงทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตรและโลกุตรธรรม ๙ (คือมรรค ๔ ผล ๔ และนิพพาน ๑ ) แล้วเข้าไปภายในพระนคร เดินสวดมนต์และสาดน้ำมนต์ไปในระหว่างกำแพงเมือง ๓ ชั้น ทำให้พวกอมนุษย์ที่ยังหลวงเหลืออยู่บ้างพากันหนีออกจากเมืองไปหมด พวกชาวเมืองจึงออกจากบ้านของตนถือดอกไม้และของหอม พากันตามบูชาพระอานนท์แห่ล้อมท่านมา พระอานนท์เดินสวดมนต์ไปทั้งคืน พระพุทธเจ้าได้ประทับอยู่ที่เมืองไพศาลี และตรัสเทศนารัตนสูตรทุกวันรวม ๗ วัน เมื่อทรงเห็นว่าภัยทุกอย่าง สงบเรียบร้อยแล้วจึงตรัสลากษัตริย์ลิจฉวีและชาววัชชีทั้งหลายเสด็จกลับราชคฤห์ ครั้งนี้มีประชาชนมาบูชาสักการะถวายแก่พระองค์เป็นการยิ่งใหญ่เพื่อส่งพระพุทธองค์ข้ามแม่น้ำคงคา
พระภิกษุในโครงการอุปสมบทหมู่ 1 แสนรูปทุกหมู่บ้านทั่วไทยซึ่งอบรมตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในช่วงท้ายการอบรมจะมีการเดินธุดงค์ บวชที่จังหวัดใดก็เดินธุดงค์ที่จังหวัดนั้น ถือเป็นการไปโปรดญาติโยมและเป็นการฝึกตัวอย่างเข้มข้น
หลังออกพรรษา ผู้ที่มีศรัทธาบวชต่อไม่สึกส่วนหนึ่งประมาณ 1,000 รูป จะมารวมตัวกันที่วัดพระธรรมกาย ฝึกอบรมธรรมปฏิบัติอย่างเข้มข้น นั่งสมาธิวันละ 10 ชั่วโมง เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเตรียมกาย วาจา ใจ ให้ใสบริสุทธิ์ เป็นเนื้อนาบุญให้กับญาติโยม และจะเดินธุดงค์ธรรมยาตราผ่านจังหวัดต่างๆ รวมทั้ง กทม. ระยะทาง 400 กว่ากิโลเมตร เพื่อปลุกกระแสชาวพุทธให้ตื่นตัว เป็นการปฏิบัติตามพุทธโอวาท ที่ให้เที่ยวจาริกไปเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งจะต้องเดินจาริกไปในย่านชุมชน เพราะจะไปโปรดญาติโยม ส่วนการเดินธุดงค์ในป่าเป็นการเดินเพื่อฝึกตัวเอง
(ข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.dmc.tv/dhammayatra)
(เนื้อเรื่องแคว้นวัชชี มีแปลจีนแล้ว จาก https://www.interhq.org/ และhttps://www.dmc.tv/dhammayatra/ )
กิจกรรมในโครงการธรรมยาตราฯ
1. โปรยกลีบดอกไม้ต้อนรับพุทธบุตรธรรมยาตรา
2. เด็ดกลีบดอกไม้เพื่อใช้ต้อนรับพุทธบุตรธรรมยาตราที่วัดพระธรรมกาย
3. การถวายภัตตาหารน้ำปานะพุทธบุตรธรรมยาตรา
4. สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม ร่วมกับพุทธบุตรธรรมยาตรา
5. ตักบาตรพุทธบุตรธรรมยาตราในแต่ละอนุสรณ์สถานฯ
6. จุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชาและมหาปูชนียาจารย์ ในพื้นที่อนุสรณ์สถาน
7. พิธีถวายสังฆทานและมอบทุนการศึกษา
8. บำรุงวัด ตามเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
9. ร่วมเป็นอาสาสมัครรับบุญต่างๆ ในโคงการธรรมยาตราฯ เช่น บุญปูเสื่อ บุญลงกลีบดอกไม้ บุญสนับสนุนต่างๆ
อานิสงส์แห่งการกล่าวสาธุการต้อนรับพระธรรมยาตรา
- ทำให้เป็นผู้ที่มีกิตติศัพท์อันงดงามทั้งในหมู่มนุษย์และเทวดา
- มีเสียงอันไพเราะก้องกังวานลึก
- ไปในที่ใดย่อมได้รับการต้อนรับสรรเสริญ
- มีทิพยสมบัติ วิมาน และบริวาร รุ่งเรืองสว่างไสว
- ได้รูปสมบัติที่งดงามได้สัดส่วน
- ปากสวย ฟันสวย เพราะเปล่งสาธุการต้อนรับผู้มีศีล
- ละสังขารแล้วมีสุคติภพเป็นที่ไป ไม่ไปสู่อบาย
- เทวดา พรหม อรูปพรหมทั้งหลายสรรเสริญ อนุโมทนาบุญ
- ได้บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยสะดวก โดยเร็วพลัน
(ข้อมูลจาก https://www.dhammayatra.org/ )
ผู้ร่วมกิจกรรม
Fridolin Holzer ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี: ที่นี่สวยและน่าอยู่มากและคนดีที่มีความสุขอยู่มากมาย พวกเขาทำงานหนักเพื่อให้งานนี้เกิดขึ้น เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ถ้าคนทั่วโลกได้เข้าร่วมงานนี้ ก็คงจะคิดเหมือนกันว่าที่นี่สวยงาม และพวกเขาต้องมีความสุขที่ได้มาที่นี่ด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าพุทธศาสนายิ่งใหญ่ เพราะชาวพุทธดูมีความสุข และพระพุทธเจ้าทำประโยชน์ให้กับโลกนี้มากมาย
ตัวแทนคณะสาธุชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มาร่วมต้อนรับคณะพระธุดงค์ : ภูมิใจกว่าที่เห็นใน DMC ได้เห็นของแท้ อยากให้ทุกๆ คนได้เห็น ได้ต้อนรับพระธุดงค์ มีบุญได้มากราบ มาไหว้ เพราะพระเป็นพันๆ รูป ที่บวชแล้วปฏิบัติธรรมถึงได้เดินธุดงค์
ตัวแทนชาวมอญที่มาร่วมต้อนรับคณะพระธุดงค์ : เราที่มาโปรยดอกดาวรวยวันนี้ก็ดีใจ ปลื้มมาก ทั้งพม่า ทั้งมอญ ทั้งไทย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็น
กัลฯ จิรัญญ์ วงษ์ผึ้ง นักเรียนโรงเรียนคณะราษฏร์บำรุงปทุมธานี : ประทับใจมากๆ เลยค่ะที่ได้มารับ รู้สึกได้บุญเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ อยากให้มีทุกปี ประชาชนอย่างเราก็ไม่ค่อยมีเวลาเข้าวัด แต่นี้พระสงฆ์มาถึงในเมืองก็เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ หาโอกาสแบบนี้ไม่ได้แล้ว
ข้อมูลโครงการธรรมยาตรา ในแต่ละปี
ปีที่ 1 พ.ศ. 2555 (2-25 ม.ค.)
- ธุดงค์ธรรมชัย สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ 6 จังหวัด รับปี พ.ศ.2555 “ปัดเป่าผองภัย – สร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน”
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,127 รูป ระยะทาง 365 กิโลเมตร
ปีที่ 2 พ.ศ. 2556 (2-27 ม.ค.)
- โครงการธุดงค์ธรรมชัย เส้นทางมหาปูชนียาจารย์พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ปีที่ 2 สืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย ถวายเป็นพุทธบูชา ประจำปี 2556 ฟื้นฟูจิตใจ สร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,128 รูป ระยะทาง 446 กิโลเมตร
ปีที่ 3 พ.ศ. 2557 (2-28 ม.ค.)
- ธุดงค์ธรรมชัยเส้นทางพระผู้ปราบมาร พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ปีที่ 3 ต้อนรับศักราชใหม่ เติมบุญใหญ่ให้ชีวิต
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,129 รูป ระยะทาง 459 กิโลเมตร
ปีที่ 4 พ.ศ. 25558 (2-25 ม.ค.)
- ธุดงค์ธรรมชัย” 6 จังหวัด รับปี พุทธศักราช 2555 ปัดเป่าผองภัย
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,130 รูป ระยะทาง 365 กิโลเมตร
ปีที่ 5 พ.ศ. 2559 (2-31 ม.ค.)
- โครงการธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง ปีที่ 5
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,131 รูป กิจกรรมบำรุงวัด
ปีที่ 6 พ.ศ. 25561 (2-31 มี.ค.)
- โครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 6 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5” เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,134 รูป กิจกรรมบำรุงวัด
ปีที่ 7 พ.ศ. 2562 (2-31 ม.ค.)
- ธรรมยาตรา ปีที่ 7 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5”
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,135 รูป กิจกรรมบำรุงวัด
ปีที่ 8 พ.ศ. 2563 (2-31 ม.ค.)
- โครงการธรรมยาตราเส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 8 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5”
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,136 รูป กิจกรรมบำรุงวัด
ปีที่ 9 พ.ศ. 2564 (6-31 ม.ค.)
- โครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 9 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5”
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,250 รูป ออนไลน์
ปีที่ 10 พ.ศ. 2565 (2-31 ม.ค.)
- โครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 10 “รักษ์บวร รักษ์ศีล 5”
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,138 รูป ออนไลน์
ปีที่ 11 พ.ศ. 2566 (2-31 ม.ค.)
- โครงการธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง ปีที่ 11
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,139 รูป กิจกรรมบำรุงวัด
ปีที่ 12 พ.ศ. 2567 (2-31 ม.ค.)
- โครงการธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง ปีที่ 12
- พุทธบุตรธรรมยาตรา 1,140 รูป ออนไลน์